Game Club Retro ขายเกมของแท้จากทุกเครื่องเกมครับ

บทความ

เกมกด

24-06-2557 23:43:51น.

V.D.Old. Game

เกมกด
จุดกำเนิดเครื่องเกมพกพาแสนสนุก

    ตอนที่แล้วผมได้พูดถึงเครื่องเกมซึ่งถือได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิกของเครื่องเกมคอนโซล คราวนี้เราลองมาย้อนถึงต้นกำเนิดของเครื่องเกมแบบพกพาบ้าง

     “เกมกด” คงเป็นชื่อที่คุ้นหูของผู้ใหญ่หลาย ๆ คน เพราะมันคือของเล่นสุดฮิตในหมู่เด็กเมื่อประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว คำว่าเกมกดเป็นชื่อเรียกรวมๆ ของเครื่องเล่นเกมแบบพกพาสมัยก่อนที่มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ ส่วนใหญ่เกมกดมักประกอบด้วยจอภาพซึ่งมีทั้งภาพแบบสีและแบบขาวดำ โดยจอภาพจะมีลักษณะการทำงานคล้ายพวกนาฬิกาดิจิตอล และมีปุ่มควบคุมต่างกันไปตามรูปแบบการเล่นของแต่ละเกม 

ความนิยมของเกมกดในเมืองไทย

     เกมกดนั้นได้รับความนิยมมากๆ ในบ้านเรา เรียกได้ว่าเด็กๆ ในยุคนั้นแทบทุกคนต้องเคยเล่นเกมกด บางคนก็มีเป็นของตัวเอง บางคนก็อาจจะใช้การยืมเพื่อนเล่นเอา หรือบางคนอาจจะเคยเช่าเล่น!! ฟังดูแล้วแปลกๆ ใช่มั้ยครับเพราะในปัจจุบันมีแต่ร้าน PS2 หรือร้านคอมพ์ให้เช่าเล่น แต่ในสมัยนั้นมีร้านเกมกดให้เช่าเล่นครับ โดยส่วนใหญ่ร้านพวกนี้จะแฝงตัวอยู่ในงานวัดหรือตามที่ฉายหนังกลางแปลงครับ ร้านพวกนี้จะมีลักษณะเป็นแผงเล็กตั้งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ เต็มไปด้วยของเล่นของเด็กๆ ในยุคนั้นไม่ว่าจะเป็นจับฉลาก ดัดลูกโป่งขาย ปืนเด็กเล่น และก็จะมีเกมกดผูกเชือกหรือโซ่ติดไว้กับตัวร้านเพื่อให้เด็กๆ มายืนเช่าเล่น ราคาค่าเล่นก็คิดเป็นตา ตาละ 1-2 บาท ตัวในเกมหมดก็จบ 1 ตา ใครอยากได้มากก็อาจจะจับฉลากกับร้านนั่นแหละเผื่ออาจจะได้เกมกดแต่จับกี่ทีๆ ไม่เคยได้เป็นเกมกด ได้แต่ตังเมหรือไม่ก็วุ้นหลอด ซึ่งเกมกดเปรียบได้กับเครื่อง PSP และ DS ในยุคนี้เลยก็ว่าได้


Game & Watch
บริษัทผู้ผลิต: นินเทนโด
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2523
จำนวนเกมที่ออกวางจำหน่าย: ประมาณ 60 เกม

     นินเทนโดเป็นผู้บุกเบิกตลาดเกมกด โดยเกมกดของนินเทนโดนั้นจะมีชื่อเรียกว่า Game & Watch ซึ่งชื่อก็ได้มาจากความสามารถของตัวเครื่องที่เป็นทั้งเกมและนาฬิกาดิจิตอลในตัวนั่นเอง Game & Watch นั้นสามารถแยกออกมาเป็นรุ่นต่างๆ ดังนี้

Silver Series
เกมแรกที่วางขาย Ball: พ.ศ. 2523
       Game & Watch รุ่นแรกที่ออกจำหน่าย ถูกเรียกว่ารุ่น Silver Series เนื่องจากแผ่นอะลูมิเนียมที่ด้านหน้าของเครื่องมีสีเงินนั่นเอง โดยมีจุดขายคือเป็นเครื่องเล่นเกมสำหรับพกพาไปเล่นได้ทุกที่ทุกเวลาและสามารถใช้แทนนาฬิกาได้อีกด้วย โดยลักษณะของเครื่องก็จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่เท่าๆ กับนามบัตร มีหน้าจออยู่ตรงกลางและใช้ถ่านนาฬิกาขนาดเล็กในการให้พลังงาน และเมื่อได้วางจำหน่ายแล้วได้รับผลตอบรับที่ดีมากขายได้เป็นล้านๆ ชุดจึงได้เกิด Game & Watch ตามมาอีกมากมายหลายรุ่น โดยในรุ่นแรกนี้มีทั้งหมด 5 เกมด้วยกัน คือ Ball, Flagman, Vermin, Fire และ Judge



เกมกดในรุ่น Silver Series เกม Fire หรือที่เรียกกันว่าเกมช่วยคนโดดตึก

Gold Series
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2524
      หลังจากที่วางจำหน่าย Silver Series ได้ไม่ถึงปี นินเทนโดได้เข็น Game & Watch Gold Series (ได้ชื่อนี้เนื่องจากแผ่นอะลูมิเนียมด้านหน้าได้เปลี่ยนเป็นสีทอง) ออกมาเพื่อสานต่อกระแสความโด่งดังทันทีและได้เพิ่มความสามารถให้กับตัวเครื่องอีกด้วย นั่นคือเราสามารถตั้งเวลาปลุกได้และเพิ่มขาตั้งเหล็กพับได้เพื่อให้สามารถวางตั้งไว้บนหัวเตียงได้อีก ให้สมกับชื่อ Game & Watch ในรุ่นนี้มีทั้งหมด 3 เกม คือ Manhole, Helmet (ฝรั่งใช้ชื่อว่า Headache) และ Lion



เกมกดในรุ่น Gold Series เกม ManHole หรือที่เรียกกันว่าเกมต่อสะพาน

Wide Screen
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2524
      ในปีเดียวกันหลังจากออกขาย Gold Series ได้แค่ครึ่งปี นินเทนโดได้ปรับเปลี่ยนดีไซน์เครื่องใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นมากยิ่งขึ้น โดยให้ชื่อว่ารุ่น Wide Screen เพราะว่ามีการปรับขนาดของตัวเครื่องและจอให้ใหญ่ขึ้น Game & Watch รุ่นนี้น่าจะเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากับผู้เล่นวัยเก๋าในบ้านเราเพราะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นเกมปลาหมึก (Octopus), โดดร่ม (Parachute), ป๊อปอาย (Popeye) และยังมีเกมอื่นอีก รวมแล้วออกมาจำหน่ายถึง 10 เกมด้วยกัน คือ Parachute, Octopus, Popeye, Chef, Mickey Mouse, Egg, Fire, Turtle Bridge, Fire Attack และ Snoopy Tennis



เกมกดในรุ่น Wide Screen เกม Octopus หรือที่เรียกกันว่าเกมปลาหมึก

Multi Screen
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2525
     n จากรุ่นที่แล้วที่ได้ปรับปรุงหน้าจอให้มีขนาดใหญ่ขึ้น นินเทนโดก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนา Game & Watch รุ่นใหม่ๆ ออกมากอบโกยเงินจากกระเป๋านักเล่นเกม โดยคราวนี้มาในรูปแบบ 2 จอและให้ชื่อรุ่นว่า Multi Screen นั่นเอง Game & Watch รุ่นนี้มองเผินๆ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นเครื่อง Nintendo DS แต่มันคือปู่ทวดของเครื่อง DS ต่างหาก เกมในรุ่น Multi Screen จะมีรูปแบบการเล่นที่ซับซ้อนและใช้จอทั้ง 2 ให้เป็นประโยชน์และสัมพันธ์กัน เช่น เกม Oil Panic จอบนจะเป็นการซูมภาพเข้าไปในภายในตึก จอล่างจะเป็นการแสดงภาพภายนอกตึกในมุมมองที่กว้างกว่า เครื่องรุ่นนี้ถือได้ว่ามีเกมผลิตออกมาเยอะสุดถึง 15 เกมด้วยกันประกอบด้วย Oil Panic, Donkey Kong, Mickey & Donald, Greenhouse, Donkey Kong II, Mario Bros., Rain Shower, Lifeboat, Pinball, Black Jack, Squish, Bomb Sweeper, Safebuster, Gold Cliff และ Zelda



เกมกดในรุ่น Multi Screen เกม Donkey Kong

New Wide Screen
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2525
      Game & Watch รุ่นนี้ทางนินเทนโดนั้นส่วนใหญ่จะนำเกมที่ได้รับความนิยมทั้งจากเครื่องฟามิคอมและ Game & Watch มาวางขายใหม่ อาจจะปรับรูปแบบภาพและตัวเครื่องให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้นแต่รูปแบบการเล่นยังคงเดิมๆ โดยที่ Game & Watch รุ่น New Wide Screen มีช่วงเวลาการวางจำหน่ายที่ยาวนานมาก เกมสุดท้ายที่ออกนั้นออกในปี 2534 คือเกม Mario The Juggler ถือได้ว่าเป็นเกมสุดท้ายของ Game & Watch โดยที่เกม Mario The Juggler คือการนำเกม Ball ซึ่งเป็นเกมแรกของ Game & Watch มาทำใหม่นั่นเอง เกมทั้งหมดในรุ่นนี้มีอยู่ 8 เกม คือ Donkey Kong Jr., Mario’ s Cement Factory, Manhole, Tropical Fish, Super Mario Bros., Climber, Balloon Fight และ Mario the Juggler



เกมกดในรุ่น New Wide Screen เกม Mario the Juggler

Tabletop
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2526
       ปฏิวัติวงการเกมกดด้วยหน้าจอระบบใหม่สามารถแสดงสีสันได้ แต่ก็ต้องแลกมากับขนาดที่ใหญ่มากขึ้น Tabletop จึงถูกออกแบบเป็นลักษณะเครื่องเกมสำหรับตั้งบนโต๊ะ รูปร่างคล้ายๆ ตู้เกมอาเขตขนาดย่อมๆ ซึ่งคงเป็นเพราะรุ่นนี้ไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นักในบ้านเราจึงไม่ค่อยได้เห็นมากนัก มีเกมออกทั้งหมด 4 เกมด้วยกัน คือ Donkey Kong Jr., Mario's Cement Factory, Snoopy และ Popeye



 เกมกดในรุ่น Tabletop เกม Mario's Cement Factory

Panorama Screen
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2526
     หลังจากออกรุ่น Tabletop มาได้ไม่นาน นินเทนโดก็ได้วางจำหน่ายรุ่น Panorama Screen ซึ่งมีลักษณะหน้าจอแบบเดียวกับรุ่น Tabletop ที่มีสีสันสวยงาม แต่ได้ออกแบบให้เครื่องมีขนาดเล็กพอที่จะพกพาติดตัวไปเล่นได้ แต่ความนิยมก็สู้รุ่นพี่อย่างเจ้า Wide Screen ไม่ได้ ออกวางจำหน่ายทั้งหมด 6 เกม คือ Snoopy, Popeye, Donkey Kong Jr., Mario’s Bombs Away, Mickey Mouse และ Donkey Kong Circus

 

เกมกดในรุ่น Panorama Screen เกม Donkey Kong Jr.

Super Color
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2527
        รุ่นท้ายๆ ของ Game & Watch มีการปรับเปลี่ยนรูปทรงมาเป็นแนวตั้งและเปลี่ยนวัสดุของตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมทั้งหมด แต่ที่น่าแปลกคือใช้ชื่อรุ่นว่า Super Color แต่รูปแบบหน้าจอไม่ได้มีสีสันสดใสเหมือนกับรุ่น Panorama Screen แต่จะใช้จอภาพรูปแบบเดิมๆ และเพิ่มสีสันเข้าไปเล็กน้อยเท่านั้น และเนื่องจาก Game & Watch เริ่มเสื่อมความนิยมลงในรุ่นนี้จึงมีเกมออกมาเพียงแค่ 2 เกมเท่านั้น ได้แก่ Spitball Sparky และ CrabGrab



เกมกดในรุ่น Super Color เกม Spitball Sparky

Micro VS.
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2527
รุ่นนี้ได้ชื่อว่า Micro VS. ก็เพราะสามารถเล่นแข่งขันกันได้ 2 คนภายในเครื่องเดียว!! โดยที่ตัวเครื่องนั้นจะมีคอนโทรลเลอร์แยกออกมาต่างหาก 2 อัน เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นพร้อมกันได้ 2 คน เกมกดในรุ่นนี้ทั้งหมดล้วนเป็นเกมที่เล่นได้ 2 คน โดยออกมาให้เล่น 3 เกม คือ Boxing (Punch Out), Donkey Kong 3 และ Donkey Kong Hockey



เกมกดในรุ่น Micro VS. เกม Boxing

Crystal Screen
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2529
Game & Watch รุ่นสุดท้ายที่ไม่ค่อยหน้าคุ้นตานักในบ้านเรา เนื่องจากออกมาในช่วงที่เกมกดเริ่มเสื่อมความนิยมแล้ว และยังมีเกมกดจากค่ายอื่นๆ ออกมาเป็นจำนวนมากจึงไม่ค่อยแพร่หลายนัก ปัจจุบัน Game & Watch ถือได้ว่าเป็นของหายากมากๆ และมีราคาสูงมาก หน้าจอมีลักษณะโปร่งใสเหมือนกระจก ซึ่งมีอยู่ 3 เกม คือ Super Mario Bros., Climber และ Balloon Fight



เกมกดในรุ่น Crystal Screen เกม Super Mario Bros.

     นอกจากเกมกดจากนินเทนโดแล้วก็ยังมีเกมกดของบริษัทอื่นๆ ที่เข้ามาแพร่หลายในไทยอีกหลายบริษัทด้วยกัน ผมจะเอาเฉพาะที่เด่นๆ เป็นที่รู้จักมาลงให้ดูกันครับ

บริษัทคาสิโอ 

      คาสิโอ (Casio) เป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่อีกรายหนึ่ง คาสิโอในยุคนั้นผลิตเกมกดออกมาหลายเกมมากเป็นร้อยๆ เกมเลยทีเดียว แต่หลายเกมก็ไม่ได้มีเล่นในบ้านเราจึงขอยกเพียงตัวอย่างเกมที่ได้รับความนิยมมาให้ดูกัน

Western Bar

 

บริษัทผู้ผลิต: คาสิโอ
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2533
เกมกดสุดฮิตในประเทศไทย หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าเกมคาวบอย เป็นเกมกดที่ออกมาให้เล่นกันในยุคท้ายๆ ซึ่งเกมคาวบอยนี้มีจุดเด่นคือระบบเสียงนั่นเอง เพราะลำโพงมีขนาดใหญ่มากโดยที่เวลาเล่นนี่เสียงปืน ปิ้วๆ ปิ้วๆๆ ดังสนั่นเลยทีเดียว เวลาตายก็มีเสียงเพลงเป็นเอกลักษณ์ แต่ก็ค่อนข้างหลอนประสาทพอสมควร ฮ่าๆ ในด้านระบบการเล่นก็โดดเด่นกว่าเกมอื่นๆ นอกจากเราจะต้องคอยยิงจานแหละขวดให้หมดแล้วเกมนี้ยังมีการสู้กับบอสด้วยการดวลปืนอีกด้วย



ภาพหน้าจอของเกม Western Bar

Submarine Battle


 

บริษัทผู้ผลิต: คาสิโอ
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2528
อีก 1 เกมดจากคาสิโอที่ได้รับความนิยมคือเกม Submarine Battle หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เกมเรือดำน้ำ” เป็นเกมกดรุ่นก่อนหน้า เกมคาวบอย รูปร่างเครื่องเกมก็เหมือนกับเกมคาวบอยนั่นเอง แต่ตัวเครื่องเป็นสีเหลือง รูปแบบการเล่นเกมนี้โดยคร่าวๆ เราต้องรับหน้าที่เป็นเรือดำน้ำคอยยิงเครื่องบินและเรือของฝั่งศัตรูด้วยตอร์ปิโด และยังต้องคอยหลบระเบิดและตอร์ปิโดของศัตรูไปด้วย เป็นอีกหนึ่งเกมกดจากคาสิโอที่ฮิตไม่แพ้เกมคาวบอยในเมืองไทย

บริษัทบันได

บันได (Bandai) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการของเล่นจากการ์ตูนต่างๆ ที่นิยมผลิตเกมกดจากการ์ตูนดังต่างๆ มากมาย เกมกดที่บันไดได้ลิขสิทธิ์มีมากมาย ผมจะขอยกเฉพาะตัวอย่างเกมกดที่คุ้นหน้าคุ้นตาในสมัยก่อนมาให้ดูกันครับ

Dragonball Z

บริษัทผู้ผลิต: บันได
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2534
เกมกดยุคหลังๆ ที่มักมาเป็นของล่อตาล่อใจเด็กน้อยที่สะสมสติ๊กเกอร์จากขนมโดราเอม่อนนั่นเอง ซึ่งใช้เวลาสะสมกันแทบตายกว่าจะครบ 5 เล่ม 10 เล่ม ขนาดที่ต้องมีการเล่นเขี่ยสติ๊กเกอร์แข่งกับเพื่อนเพื่อเอามาแปะกันเลย สติ๊กเกอร์พวกนี้เมื่อครบสามารถนำมาแลกกับเกมกดหรือเครื่องเกมต่างๆ ในสมัยนั้นได้ ซึ่งผมยืนยันเลยครับว่าแลกได้ของจริงๆ เพราะพี่ชายผมและผมเคยแลกเกมกดดราก้อนบอลมาแล้ว!! แต่โดยส่วนตัวจำระบบการเล่นของเกมนี้ไม่ได้สงสัยอาจเป็นเพราะไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่นักไม่เหมือนเกมคาวบอยที่แอบไปเล่นของเพื่อนได้ทั้งวัน

Tamagotchi

บริษัทผู้ผลิต: บันได
ปีที่ผลิต: พ.ศ. 2539

      หากพูดถึงเกมกดของบันไดหลายคนอาจจะจดจำได้ว่าเป็นเกมกดจากการ์ตูนดังในยุคนั้นๆ แต่ในปี พ.ศ.2539 หลังจากเกมกดได้เสื่อมความนิยมไปแล้ว บันไดได้ปลุกกระแสเกมกดให้กลับมาดังทั่วบ้านทั่วเมืองได้อีกครั้งด้วยเกม ทามะก๊อตจิ (Tamagotchi) ซึ่งเป็นเกมกดรูปทรงเหมือนไข่เน้นรูปแบบการเล่นที่ให้ผู้เล่นได้เลี้ยงดูเจ้าทามะก๊อตจิน้อยๆ ตั้งแต่เป็นไข่จนเติบโตเป็นตัวมีจุดเด่นที่ใช้เวลาเล่นเป็นรูปแบบเรียลไทม์ จึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์ทั่วบ้านทั่วเมือง ในช่วงนั้นกระแสของเกมทามะก๊อตจิ โด่งดังมากและอาจจะพูดได้ว่าเป็นเกมกดที่โด่งดังที่สุดเท่าที่มีมาเลยก็ว่าได้

ปัจจุบันนี้สามารถพบเห็นเกมกดได้ที่ไหน? 

     ในปัจจุบันเกมกดถือว่าเป็นของเล่นและของสะสมของผู้ที่ชื่นชอบสะสมเกม และเป็นที่สนใจของนักสะสมทั่วทั้งโลก เกมกดบางรุ่นจึงมีราคาสูงมากๆ โดยเฉพาะ Game & Watch ของนินเทนโดบางเกมนั้นมีการซื้อขายกันในราคาที่สูงกว่าเครื่องเกมรุ่นใหม่ๆ ในตอนนี้ด้วยซ้ำ ในเมืองไทยเราอาจจะยังพอหาซื้อเกมกดได้ตามคลองถมและตลาดมืด แต่โดยส่วนใหญ่สภาพก็มักจะไม่สมบูรณ์นัก เช่น ฝาลังถ่านหาย หน้าจอหมึกแตก หรือจอดำ แต่ก็ยังเป็นสินค้าที่ค่อนข้างมีราคาจึงเป็นสินค้าที่พ่อค้าขายของเก่ามักจะนำมาขายกัน

     สุดท้ายนี้สำหรับผู้ที่ต้องการรำลึกอดีตกับเกมกดนั้น สามารถหาเกม Game & Watch Gallery ที่ออกบนเครื่อง Game Boy ถึง 4 ภาค และยังมี Game & Watch Collection บนเครื่อง DS อีก 2 ภาค ที่ยังพอหามาเล่นได้อย่างไม่ยากเย็นนักครับ

โดย River01 (พรเกียรติ แซ่ลี้)
www.gameclubretro.com